ยินดีต้อนรับเข้าสู่ http://newsofthethaipeople.blogspot.com/

ยินดีต้อนรับเข้าสู่ บล๊อค ข่าวคราวชาวไทย



ซึ่ง บล๊อค นี้ได้สร้างขึ้นมาเพื่อเผยแพร่ข่าวคราวของคนไทย

และได้มีการอั๊พเดตข่าวใหม่ๆทั่งข่าวสุขภาพ,ข่าวการศึกษา

รวมทั้งข่าวการเคลื่อนไหวต่างๆของคนไทยในสมัยปัจจุบัน...

วันพุธที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2554

ยึดแนววิถีเกษตร"ชีวภาพ" ปลูกพืชทุนต่ำ ตลอด 365 วัน

ยึดแนววิถีเกษตร"ชีวภาพ" ปลูกพืชทุนต่ำ ตลอด 365 วัน

Pic_138883
แปลงดอกมะลิที่ยังคงเก็บเกี่ยวผลผลิตและพริกที่ยังพอหลงเหลือ

ปัจจุบันเกษตรกรหลายรายเริ่มปรับเปลี่ยนวิถีแนวทางการปลูกพืชผักกันมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเริ่มทนแบกรับราคาวัสดุเคมีภัณฑ์ที่นับวันราคาซื้อขายสูงขึ้น บวกกับตัวอย่างเพื่อนบ้านรอบข้างที่ปรับทิศเปลี่ยนทางได้ทันกาล กระทั่งโกยเงินเข้ากระเป๋าตุงไปแล้วหลายราย โดยหนึ่งในตัวอย่างที่กล่าวมานี้ก็มี นางสุดใจ ตันวัฒนชัยกุล เกษตรกรชาวโพรงมะเดื่อ จ.นครปฐม รวมอยู่ด้วย

นางสุดใจ บอกว่า ตั้งแต่จำความได้ก็คลุกคลีอยู่ กับอาชีพทำไร่ ทำสวนมาโดยตลอด ซึ่งมีพื้นที่ทำการเกษตร ทั้งหมด 5 ไร่ แบ่งปลูกมะลิร้อยมาลัยส่วนหนึ่ง ที่เหลือ ซึ่งเป็นที่เช่าทำกินสำหรับปลูกพืชผัก จะเป็นชนิด ประเภทใดบ้างนั้น แต่ละช่วงไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับการสังเกตถึงความ ต้องการของตลาด โดย "ปลูกแบบหมุนเวียน" ไปเรื่อย


นางสุดใจ ตันวัฒนชัยกุล ในแปลงผัก
นางสุดใจ ตันวัฒนชัยกุล ในแปลงผัก


....แต่หลักๆก็คือ "พริก" เพราะมีอายุการเก็บผลิตผลค่อนข้างยาวนาน หลังหมดกระทั่งต้องโละปลูกใหม่จะหันไปลงผัก จะเลือกประเภทที่มีอายุการเก็บเกี่ยวไม่เร็วหรือช้าเกินไป อยู่ราวๆเดือนถึงเดือนกว่า เพื่อสะดวกในเรื่องของแรงงานและจำนวนรอบ มีทั้งชนิดออกดอก อย่างเช่น กวางตุ้ง รวมถึงผักใบ เช่น ผักชีไทย ผักชีลาว....
การผลิตจะหมุนเวียนกันไปอย่างนี้ตลอด ในช่วงที่พักหน้าดิน หรือรอให้พริกออกเม็ดก็จะเก็บ "ดอกมะลิ" เรื่อยไปกระทั่งผ่านพ้นช่วงฤดูหนาวซึ่งอยู่ประมาณปลายเดือนมกราคม ซึ่งช่วงนี้รายได้ที่เข้ามาค่อนข้างน้อย ส่วนต้นทุนที่ต้องลงไปโดยเฉพาะเคมีที่ฉีดพ่นแต่ละเดือนเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ หลังมาร่วมกันคิดกับสมาชิกในบ้าน จึงรู้ถึงสาเหตุนั่นคือ ราคาวัสดุเคมีภัณฑ์มีการปรับอยู่ตลอด หากเป็นอย่างนี้ เรื่อยไป อย่าว่าแต่จะมีเงินก้อนเก็บ ต่อไปอาจต้องไปกู้เงินนอกระบบมาลงทุน

ฉะนี้...ต่อมาประมาณปี'48 เห็นเพื่อนบ้านเขาปลูกผักอย่างต่อเนื่องได้โดยไม่ใช้เคมี เห็นแล้วบอกได้ว่าดีทั้งสุขภาพ อากาศไม่มีกลิ่นเหม็นยาที่ฉีดพ่น จึงหันไป ศึกษาวิถีแนวที่เรียกกันว่าการผลิตแบบ "ชีวภาพ" บ้าง แต่ก็ไม่ได้ละทิ้งทั้งหมด ยังคงใช้ควบคู่กันไปกับปุ๋ยเคมี ซึ่ง  ขั้นตอนวิธีการ ก็คือ หากเป็นผักใบเขียว พอมีอายุครบ ประมาณ 7 วัน จะเริ่มให้ปุ๋ย ต่อจากนั้นตามติดด้วยการ ฉีดยาป้องกันศัตรูพืช รวมถึงฮอร์โมน อาหารเสริมต่างๆ ที่ใส่ตามหลังเข้าไป เว้นระยะประมาณ 7 วัน ให้น้ำซึ่งต้อง ดูตามความเหมาะสมและสภาพภูมิอากาศในแต่ละช่วงๆไป


สภาพดินที่สมบูรณ์กระทั่งเริ่มมีไส้เดือนดินให้เห็น
สภาพดินที่สมบูรณ์กระทั่งเริ่มมีไส้เดือนดินให้เห็น


หลังจากนั้นใช้น้ำหมักชีวภาพฉีดพ่นไปพร้อมกับการให้ปุ๋ยทุกครั้ง ผลที่ได้ที่เห็นอย่างชัดเจนในเวลาต่อมาก็คือว่า ผักงาม  สีใบสวย มีความสดคงทน ถูกใจบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่เข้ามารับซื้อ ที่สำคัญยิ่งก็คือดิน แม้จะไม่ได้พักหน้าดิน แต่สภาพยังมีความอุดมสมบูรณ์ หน้าดินร่วนซุย ไส้เดือนตัวเล็กเริ่มมีให้เห็น รวมทั้ง นก ผีเสื้อ แมลงต่างๆเริ่มบินเข้ามา จากเดิมน้อยครั้งที่จะผ่านซักตัว

"การเปลี่ยนวิถีเกษตรชีวภาพช่วยได้หลายอย่าง ทั้งสภาพดินที่สมบูรณ์ขึ้น ลดปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมี ผลผลิตมีคุณภาพ และสามารถปลูกพืชผักหมุนเวียนได้ตลอดทั้งปี ซึ่งเหล่านี้มันคือหัวใจหลักของคนทำไร่ทำนาอย่างพวกเรา แม้ที่ทำกินจะมีไม่มาก แต่รายได้ก็พอเลี้ยงสมาชิกในบ้านให้กินอิ่ม นอนหลับ"
สำหรับใครที่ต้องการเปลี่ยนก้าวสู่การผลิตด้วยวิถีแบบชีวภาพ สามารถกริ๊งกร๊างสอบถามกันได้ ที่ 08-9615-5108 ในวันเวลาที่เหมาะสม.


เพ็ญพิชญา เตียว


@@@@@@@@@

ที่มา—>http://www.thairath.co.th/

2 ความคิดเห็น:

  1. ดีอ่ะได้อัปเดตความรู้

    เกีี่ยวกับสังคมรอบตัวด้วย

    work

    ตอบลบ
  2. ชอบเรื่องแบบนี้หรอ

    ขอให้โพสเยอะๆๆ

    แล้วจะเข้ามาอ่าน

    ตอบลบ